ความภาคภูมิใจของศิษย์วัดกับปรากฏการณ์ "วัดพระธรรมกายฟีเว่อร์"
ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
...ทุกมุมทุกประตูของวัดพระธรรมกายในทุกๆ
วัน ไม่เว้นแม้แต่วันพระ ยังคงอยู่ในสายตาและความสนใจของสื่อมวลชน ... ทุกคำพูด ทุกบทสัมภาษณ์ของศิษย์วัดคนสำคัญ
กลายเป็นข่าวใหญ่และประเด็นร้อนแรงในโลกโซเชียล
... หากมอง
"วิกฤต" ให้เป็น "โอกาส" การนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน ที่แม้ว่าจะสื่อออกมาในหลายมิติหลายอารมณ์
มีทั้งชอบ ชัง หรือเฉยๆ ผสมปนเปกันไป แต่ก็ถือเป็น
"การประชาสัมพันธ์วัดพระธรรมกาย"
โดยที่ไม่จำเป็นต้องลงทุนโฆษณาแม้แต่บาทเดียว
... ที่เห็นชัดแน่ๆ
ก็คือ ตอนนี้คณะศิษย์วัดทุกเพศทุกวัยกำลังเริ่ม "คุ้นเคยกับความดัง"
ในฐานะที่เป็นวัดดังเข้าขั้น "เซเลบ" (celebrity) ตลอดจนประสบการณ์ที่ตกเป็นข่าว
"ปาปารัสซี่" (paparazzi) ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา
ยิ่งทำให้ฝีมือและชั้นเชิงในการเผยแผ่ทั้ง "เชิงรับ" และ
"เชิงรุก" โดยเฉพาะในโลกโซเชียลนั้น พัฒนาแบบ "ก้าวกระโดด"
มากกว่าเดิมหลายเท่านัก
… ทุกวันนี้
ดูเหมือนคำว่า "ยิ่งตี..ยิ่งดัง" นั้น
อาจจะใช้กับวัดพระธรรมกายไม่ได้แล้ว ที่ถูกควรจะพูดว่า
"ยิ่งตี..ยิ่งกังวาน" เสียมากกว่า
... เห็นอย่างนี้แล้ว
ก็อดนึกถึงคำพูดของหลวงปู่วัดปากน้ำภาษีเจริญไม่ได้
ที่เมื่อครั้งท่านเริ่มเผยแผ่วิชชาธรรมกาย วัดปากน้ำก็ได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์กันมาก
บางพวกก็ปลื้มใจ บางพวกก็หนักใจ บางพวกก็ตั้งขอกล่าวหาลงโทษวัดปากน้ำอย่างหนัก
ถึงกับพูดว่าอุตริมนุสธรรมก็มี
ข่าวนี้มิใช่หลวงปู่วัดปากน้ำท่านจะไม่รู้
ท่านได้ยินเสมอๆ แต่เสียงนั้นก็ไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนใจแก่ท่านแม้แต่เล็กน้อย
ท่านกลับภูมิใจเสียอีกที่ได้ยินได้ฟังคำเช่นนั้น
โดยท่านพูดด้วยความเชื่อมั่นในสิ่งที่ท่านได้เข้าถึงว่า
... "คนเช่นเราไม่ใช่ไร้ปัญญา ชั่วก็รู้ ดีก็เห็น
เราจะฆ่าตัวเราเองเพราะความปรารถนาลามกทำไม ที่เขาพูดหาว่าเราอย่างนั้น
บางคนคงจะไม่รู้จักคำว่า “ธรรมกาย” มีอยู่ที่ไหน
หมายเอาใคร เขาอาศัยความไม่รู้มาว่าเราผู้ตั้งใจปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
เมื่อผู้ไม่รู้มาติเตียนเรา
ความไม่รู้ของเขาจะลบล้างสัจธรรมของพระพุทธศาสนาได้อย่างไร
ถ้าจะกลบก็กลบได้เพียงชั่วคราว
ไม่ช้าดวงแก้วของพระพุทธศาสนาก็จะเปล่งรัศมีให้ผู้มีปัญญาเห็นด้วยสายตาของตนเอง"
... "การที่เขานำไปพูดเช่นนั้น เป็นผลแห่งการปฏิบัติที่เราได้กระทำกันอยู่
แสดงให้เห็นว่าคณะวัดปากน้ำไม่ได้กินแล้วนอน
เป็นสำนักที่เคร่งครัดในการปฏิบัติธรรม การที่เขานำไปพูดเช่นนั้น
เท่ากับเอาสำนักเราไปเผยแพร่ ดีเสียกว่าการโฆษณาทางหนังสือพิมพ์ เพราะการที่เขานำไปพูดเช่นนั้นเป็นการกระทำของผู้พูดเอง
เราไม่ได้จ้างไม่ได้วานใคร"
... "เมื่อพูดทางไม่ดีได้ ก็ต้องมีคนพูดทางดีได้เหมือนกัน
ธรรมจะต้องชนะอธรรมเสมอ เราไม่ต้องเดือดร้อนใจ
เพราะธรรมกายของพระพุทธศาสนาเป็นของแท้ ไม่ใช่ของเก๊หรือของเทียม ธรรมกายจะปรากฏเป็นความจริงแก่ผู้เข้าถึงธรรม
เรื่องอย่างนี้เราไม่หวั่น เราเชื่อในคุณพระพุทธศาสนา"
พระมหาเสถียร
สุวัณณฐิโต ธรรมรักษ์
สาธุๆๆ...ธรรมะต้องชนะอธรรม
ตอบลบสาธุๆๆ...ธรรมะต้องชนะอธรรม
ตอบลบสาธุค่ะ
ตอบลบกดไลค์ใช่เลย
ตอบลบสาธุครับ
ตอบลบสาธุครับ
ตอบลบเห็นดีเห็นงามตามครับ สาธุ
ตอบลบความจริงแท้ เจ้าค่ะ คำสั่งสอนจองหลวงปู่เป็นของจริง ใครไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร พวกเราเชื่อมั่นในความดี ธรรมย่อมชนะอธรรม พวกเราจึงไม่มีความกังวลใดๆ กราบอนุโมทนาเจ้าค่ะ
ตอบลบในร้ายมีดี ในดีมีร้าย แล้วแต่เราจะจับแง่คิดมุมมองแบบไหนสำหรับนักสร้างบารมีแล้ววิกฤตมักมองเป็นโอกาสเสมอ มองโลกในแง่ดีด้านเดียวตลอดสบายใจ😘😘😘
ตอบลบสาธุคะ
ตอบลบถูกต้องแล้วตอนนี้กำลังดังไปทั่วโลก เป็นกำลังใจให้วัดพระธรรมกายและผู้ที่ไม่หูเบาเข้ามาพิสูจน์กันเยอะๆ สำนักงานข่าว bbc ยังออกข่าวให้ ขอบคุณงานระดับโลก
ตอบลบบัวมีสี่เหล่าฉันใด
คนที่คอยตั้งกระทู้ว่าวัดพระธรรมกาย
ก็เหมือนเดียรถีย์ที่มีเรื่องกับสาวกของพระพุทธเจ้า
โปรดเข้ามาศึกษา ว่าทำไม เป็นวัดดัง
อย่าเชื่อแต่เพจปลอม